ตอนที่ 1.แนะนำเกี่ยวกับ แบบจำลองสารสนเทศอาคาร และการติดตั้งโปรแกรม
ตอนที่ 2.การตั้งค่าเปิดโปรแกรมเบื้องต้น อธิบายคำสั่ง และการใช้งาน systems , insert , Annotate , Analyze, Collaborate ,View , Manage , Add in , modify Properties , Project Browser , Navigator
ตอนที่ 3.หมวดเข้าสู่งานระบบท่อ หัวจ่าย หัวสปริงเกอร์ การวาง การใช้คำสั่งเขียนท่อและอุปกรณ์ เบื้องต้น
ตอนที่ 4. หมวดเข้าสู่งานระบบไฟฟ้า การใช้คำสั่งวางอุปกรณ์ การเขียนท่อไฟ เคเบิ้ลเทร เบื้องต้น
ตอนที่ 5 - Step 1 ลิ้งโมเดล ตรวจสอบตำแหน่ง
ตอนที่ 5 - Step 2 การสร้างกริดไลน์
ตอนที่ 5 - Step 3 การสร้างระดับชั้น
ตอนที่ 5 - Step 4 การก็อปปี้มอนิเตอร์ ระดับชั้น กริดไลน์
ตอนที่ 5 - Step 5 การสร้างแปลน
ตอนที่ 5 - Step 6 การสร้างแปลนฝ้า
ตอนที่ 5 - Step 7 การตั้ง View range
ตอนที่ 5 - Step 8 การบักทึกวิวเทมเพลท
ตอนที่ 5 - Step 9 การปรับตั้ง Visibility Graphics
ตอนที่ 6-Step 1 การเปิดเทมเพลทใช้งาน
ตอนที่ 6-Step 2 การตั้งค่าระบบ Duct System
ตอนที่ 6-Step 3 การเขียนท่อ Duct Routing
ตอนที่ 6-Step 4 การตั้งค่า Filter
ตอนที่ 6-Step 5 การถอดปริมาณท่อลม เบื้องต้น
ตอนที่ 7-Step 1 การเขียนงานประปาเบื้องต้น - การวางสุขภัณฑ์
ตอนที่ 7-Step 2 การเขียนงานประปาเบื้องต้น - การเขียนท่อน้ำโสโครก และท่อน้ำทิ้ง
ตอนที่ 7-Step 3 การเขียนงานประปาเบื้องต้น - การเขียนท่อน้ำดี
ตอนที่ 7-Step 4 การเขียนงานประปาเบื้องต้น - การถอดปริมาณท่อ
ตอนที่ 8 - Step 1 การเขียนระบบดับเพลิงเบื้องต้น - การเปิดเทมเพลท การลิ้งโมเดล การทำงานร่วมกัน การวางหัวสปริงเกอร์
ตอนที่ 8 - Step 2 การเขียนระบบดับเพลิงเบื้องต้น - การดูตาราง Pipe Schedule NFPA13 , การสร้างชนิดท่อ การเขียนท่อ การถอดปริมาณ
ตอนที่ 9. การเขียนงานไฟฟ้าเบื้องต้น
ตอนที่ 10 การใส่ระยะ ตั้งค่า + การใส่แท๊ก + การทำไตเติ้ลบล๊อก
ตอนที่ 11_การใส่ Section 2D - 3D
ตอนที่ 12 การปริ้น การ Export
ตอนที่ 13 การใช้โปรแกรม Enscape
ตอนที่ 14 การใช้โปรแกรมNaviswork ในการตวจ Clash Detective
การใช้งานโปรแกรม Revit สำหรับงานระบบ ( Revit MEP)
เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาตอบสนองการใช้งานสำหรับวิศวกรงานระบบและการเขียนแบบด้านงานระบบโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วยงานด้านเครื่องกล (Mechanic) งานด้านไฟฟ้า (Electrical) และงานด้านสุขาภิบาล (Plumbing) โดยที่การสร้างโมเดลงานระบบนั้น จะอาศัยขอบเขตอาคารจากการนำไฟล์งานสถาปัตย์และงานโครงสร้างเข้ามา เพื่อช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การโมเดลงานระบบอาคารใน Revit ยังสามารถทำการวิเคราะห์ Flow และ Pressure ในท่อได้ ทำให้สามารถช่วยวิศวกรในการออกแบบระบบท่อได้สะดวกขึ้น
นอกจากนี้ Revit MEP ยังสามารถทำการโมเดลงานท่อเป็นระบบ Fabrication ได้ ทำให้สามารรู้ขนาดท่อที่จะนำไปใช้งานจริงว่าต้องใช้ท่อความยาวขนาดไหน จำนวนเท่าไหร่ และยังสามารถใส่ Hanger เพื่อทำการยึดแนวท่อกับพื้นโครงสร้างได้อีกด้วย งานโมเดลที่ออกมาจึงมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับการทำงานจริงที่หน้างานซึ่งทำให้ผู้รับเหมาและวิศวกรที่ทำการออกแบบมองเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและวิเคราะห์ปัญหาได้ทันที
ทั้งนี้โปรแกรมทั้งสามข้างต้น สามารถนำมาทำงานร่วมกันได้และสามารถใช้คำสั่งตรวจสอบความขัดแย้งในแบบ (Interference Check) ได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการต่างคนต่างหน้าที่ออกแบบ และยังสนับสนุนการทำงานหลายคนในขณะเดียวกันในไฟล์เดียวด้วยระบบ Work sharing และ Collaboration for Revit ได้อีกด้วย